3 สิ่งอันตรายต่อช่องปาก ถ้าเครียดมาก

ความเครียดมีผลต่อภาวะช่องปากอย่างมาก

มีการศึกษาค้นพบว่าโรคเหงือกมีส่วนเกี่ยวพันกับความเครียด และ อาการทางจิตเวช อย่างเช่น ความซึมเศร้า(Depression) ความวิตกกังวล(Anxiety) จากการวิจัยได้พบว่า ฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisone Hormone)จะหลั่งออกมา ฮอร์โมนนี้จะสะสมและเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ โรคปริทันต์ได้ อีกทั้งความเครียดอาจทำให้เราขาดการเอาใจใส่ในสุขภาพของปากฟันไปด้วย สำหรับการแก้ไขการพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจเช็คทำความสะอาดคราบพลัคและหินปูนจะช่วยทำให้เหงือกและฟันของเราแข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่าความเครียดอาจทำให้เกิดโรคของข้อต่อขากรรไกร(TMJ) นอนกัดฟันขณะหลับยามกลางคืน (Bruxism)หรือแม้แต่การกัดสิ่งของต่างๆเช่นการกัดปากกา กัดเล็บมือ ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการสึกของฟัน เมื่้อฟันสึก จะพบอาการต่างๆตามมา เช่น การเสียวฟัน การแตกร้าวของฟัน ซึ่งปัจจัยเหลานี้คงไม่ดีแน่ถ้าอยู่ในปากของเรา

สำหรับการแก้ไข ทันตแพทย์สามารถช่วยท่านได้โดยการอาจทำเฝือกฟัน(night gurad) เพื่อใส่เวลากลางคืนเพื่อลดแรงกระแทกของฟันขณะกัดกระแทกกันป้องกันไม่ให้ฟันสึกรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นได้

ความเครียดเป็นผลทำให้ปากแห้งด้วยเช่นกัน(dry mouth) ซึ่งอาการปากแห้งนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุของการทำให้เกิดกลิ่นปาก(bad breath)รวมทั้งสามารถทำให้สุขภาวะในช่องปากแย่ได้เลยเนื่องจากน้ำลายจะเป็นตัวชะล้างให้เชื้อโรคออกไป ดังนั้นเมื่อน้ำลายแห้งก็จะเกิดเชื้อโรคในช่องปากที่มากเกินกว่าปกติ ฟันผุ รวมทั้งภาวะต่างๆในช่องปากจึงเอื้อต่อการเกินโรคได้ง่าย

สำหรับการแก้ไข ทันตแพทย์จะแนะนำถึงวิธีการดูแลความสะอาดในช่องปาก การจิบน้ำบ่อยๆ การใช้น้ำยาบ้วนปากชนิดพิเศษบางครั้งก็สามารถลดปริมาณเชื้อโรคได้เช่นกัน

แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือเราควรจะไม่เครียดทำใจให้สบาย ถ้าเราอายุเยอะก็ควรพักเรื่องงานควรเข้าวัดฟังธรรมะ

นักวิจัยแนะนำว่า คนเราควรจะหาทางคลายเครียดโดยการออกกำลัง กินอาหารให้ถูกส่วน นอนพักผ่อนให้มาก และพยายามรักษาสุขภาพจิตเอาไว้ ผู้ที่สามารถทำใจไม่ให้เครียด จะไม่ค่อยเป็นโรคฟันเท่าไรนัก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพราะเราใส่ใจมากกว่าการรักษา

คลินิกทันตกรรมมายด์เด็นทัลโฮม

โทร 020-499-227